หนังที่ใช้ทำกระเป๋าแบบต่างๆ

สวัสดีหนุ่มสาวที่กำลังมองหากระเป๋าคู่ใจกันอยู่นะครับ เราเชื่อว่าหลายๆ ท่านคงมีกระเป๋าในใจกันอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่แน่ใจกับความชอบและไม่รู้ว่ากระเป๋าที่เราเล็งๆ ไว้นั้น…จะเหมาะสมกับเราจริงหรือไม่? บทความนี้จึงจะขอพาหนุ่มสาวไป “ทำความรู้จักกับหนังที่ใช้ทำกระเป๋าแบบต่างๆ” กันสักหน่อยก่อนตัดสินใจซื้อกันครับ

กระเป๋าหนังมีกี่แบบ?

กระเป๋าหนังจะแบ่งออกตามลักษณะของหนังที่ใช้เป็น 2 ประเภท ได้แก่…

– หนังแท้ ซึ่งได้จากหนังสัตว์ เช่น หนังวัว หนังแกะ หนังม้า หนังจระเข้

– หนังเทียม หรือหนัง PU ย่อมาจาก Polyurethane ซึ่งถูกผลิตขึ้นโดยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้พลาสติกประเภท PU ในการผลิต ซึ่งมีลักษณะลวดลายคล้ายหนังแท้มาก  โดยมีคุณสมบัติสามารถระบายอากาศได้ดีไม่แพ้กับหนังแท้ ข้อดีสำคัญคือ ราคาไม่แพง และเหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ หรือไม่ชอบกลิ่นของหนังแท้ แต่หลาย ๆ คนอาจคิดว่ากระเป๋าหนัง PU นั้นเป็นกระเป๋าหนังเทียมคุณภาพถูก ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วหนัง PU ยังมีหลายเกรดตามคุณภาพการผลิต

เทคนิคในการเลือกกระเป๋าหนังให้เหมาะสม

●เลือกกระเป๋าถือให้เหมาะกับการใช้งานเป็นหลักก่อนเสมอ เพราะหากกระเป๋าไม่เหมาะกับการใช้งาน การที่ได้ซื้อมาแต่ไม่ได้ใช่ ก็เปรียบสเมือนว่าเราเสียเงินโดยใช่เหตุนั้นเองครับ

●เลือกขนาดของกระเป๋าที่เหมาะพอกับร่างกายผู้ถือ เพราะว่าการเลือกกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่เกินตัว จะทำให้การใช้งานหรือการพกพาไปสถานที่ต่างๆ ไม่สะดวกนั้นเองครับ

2 วิธีกำจัดกลิ่นอับภายในกระเป๋า

●ขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนังด้วยเบคกิ้งโซดา

– เตรียมเบคกิ้งโซดามาพอประมาณ สัก 1 ถ้วยเล็ก

– นำเบคกิ้งโซดาที่เตรียมไว้ ใส่ในถุงเท้า หรือถุงผ้าสะอาดๆ

– นำกระเป๋าและถุงเบคกิ้งโซดา ใส่ไปในถุงซิปล็อค หรือถ้ามีถุงสูญญากาศจะดีมาก

– ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง ให้เบคกิ้งโซดาดูดกลิ่นอับ

– เมื่อครบเวลา ตรวจสอบกลิ่นดู ถ้ายังมีกลิ่น ให้ใส่ถุงไว้อีก 1 วัน

●ขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนังด้วยกากกาแฟ

– นำกากกาแฟที่แห้งแล้ว มาบรรจุใส่ในถุงผ้า หรือถุงเท้าสะอาด (หากไม่มีกากกาแฟ ให้ใช้กาแฟสำเร็จรูปแทนได้)

– นำถุงกาแฟที่มัดแน่นแล้ว ใส่ไว้ในกระเป๋า ทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ ปล่อยให้กาแฟทำหน้าที่ดูดซับกลิ่น

-ลองดมกลิ่นดู หากยังคงมีกลิ่นเล็กน้อย ให้ทำซ้ำแล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน หากไม่มีกลิ่นหลงเหลือ ก็นำมาใช้ได้ต่อไป

ทำความรู้จักกับ หนังเทียม หรือที่เรียกกันว่า หนัง PU

หนัง PU แบ่งตามกรรมวิธีการผลิตได้ 2 ประเภท ได้แก่…

– หนัง PU แบบอบแห้ง Dry process

– แบบผ่านน้ำ Wet process ซึ่งแบ่งแยกตามรูปแบบของการผลิต

หนัง PU แบบอบแห้ง Dry process มี 3 ชั้นคือ ชั้นสี ชั้นกาว และชั้นผ้า ในหนังเทียมพียูแบบผ่านน้ำ Wet process ก็มี 3 ชั้นเช่นเดียวกันแต่ในชั้นผ้านั้นจะนำไปโค๊ตหรือเคลือบด้วยเนื้อพียูก่อนเพื่อให้เนื้อสัมผัสเหมือนหนังแท้ยิ่งขึ้น ซึ่งในขั้นตอนการเคลือบหรือโค๊ตด้วยเนื้อพียูบนผ้านั้นต้องผ่านน้ำเพื่อสร้างเนื้อพียู เครื่องเคลือบหรือโค๊ตพียูบนผ้าที่ต้องผ่านน้ำเรียกว่าเครื่อง Wet process

ดังนั้นหนังเทียมพียูที่ใช้ผ้าที่ผ่านกรรมวิธีจากเครื่องนี้จึงเรียกว่า หนังเทียมพียูประเภท Wet process แต่ละประเภทของเครื่องหนังต้องการหนังเทียมพียูไปใช้งานในลักษณะแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกชนิดของเนื้อพียูมาใช้งานจึงแตกต่างกัน เนื้อพียูมีด้วยกัน 3 ประเภทคือ Polycarbonate based PU, Polyether based PU และ Polyester based PU

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ทำความรู้จักกับหนังที่ใช้ทำกระเป๋าแบบต่างๆ” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านที่สนใจกันครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กันนะครับ