13 สิ่งที่ไม่ควรใส่ไปทำงาน

การถือฤกษ์ถือชัยในการออกจากบ้านหรือไปทำกิจกรรมต่างๆ นั้น ถือเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างนึงที่มีอยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการก้าวเท้าเดินออกจากบ้าน จิ้งจกร้องทักห้ามเดินทางไกลๆ ห้ามออกจากบ้านเวลาบ่ายโมงตรงเพราะถือว่าตรงกับเวลาไม่ดี ห้ามกินสิ่งนั้นสิ่งนี้ถ้าไม่อยากโชคร้ายหรือแม้กระทั้งการแต่งกายก็มีสิ่งที่ไม่ควรสวมใส่ไปข้างนอกหรือไปที่ทำงานเช่นกันครับ วันนี้เราจะมาบอกกล่าวท่านผู้อ่านว่าสิ่งใด้ควรสิ่งใดไม่ควรกับ “13 สิ่งที่ไม่ควรใส่ไปทำงาน” ที่ทั้งเกี่ยวกับสายมูและเกี่ยวกับการสร้างบุคลิกภาพที่ดี โดยจะมีอะไรกันบ้างนั้น เราไปอ่านกันเล้ยย!!! 13 สิ่งที่ไม่ควรใส่หรือแต่งกายแบบผิดๆ ไปทำงาน 1.ไม่ควรสวมเชิ้ตโดยปลดกระดุมเสื้อเกิน 2 เม็ด เพราะจะทำให้ดูไม่เรียบร้อยสำหรับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี2.ในการสวมสูทจะไม่ควรติดกระดุมเม็ดสุดท้าย แต่จะติดเม็ดกลางไว้เสมอ เพื่อให้ดูสมาร์ทและเรียบร้อยควบคู่กัน3. ไม่ควรสวมทั้งสร้อยและต่างหูในคราวเดียวกัน ควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะการส่วมใส่เครื่องประดับทั้ง 2 อย่างจะทำให้เป็นจุดสนใจในที่ทำงานและดูพะรุงพะรังได้อีกด้วย4.ไม่ควรสวมเสื้อคอลึกพร้อมกับกระโปรงสั้นไปทำงาน ควรเลือกสวมอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อความสุภาพ5.ไม่ควรผูกไทด์ให้ปลายยาวเกินระดับเอว เพราะนอกจากจะดูตลกแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายในแบบที่คาดไม่ถึงได้ด้วย เช่น…

เสื้อผ้าแฟชั่นกับภาวะโลกร้อนเกี่ยวกันอย่างไร?

“ภาวะโลกร้อน” เป็นวิกฤตที่กำลังเคลือบคลานเข้ามาอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจัยหลักนั้นเกิดจากเงื้อมือมนษย์เรานี่ล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากอุตสาหกรรมต่างๆ การเปิดแอร์ การใช้รถยนต์หรือแม้กระทั้งกระบวนการผลิต “เสื้อผ้าแฟชั่น” ก็เป็นอีกปัจจัยหลักที่ใกล้ตัวและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยหล่ะครับ ในบทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไปทำความเข้าใจและศึกษาว่าทำไม? เสื้อผ้าแฟชั่นถึงได้ไปเกี่ยวกับข้องกับภาวะโลกร้อนได้ เราจะไปหาคำตอบกันครับ ทำความรู้จักกับ “Fast Fashion” ต้นต่อแห่งหายนะเงียบต่อสิ่งแวดล้อม หากเปรียบแบรนด์เสื้อผ้าดังๆ ในอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าที่ออกรุ่นใหม่อยู่เรื่อยๆ มาไวไปไว ผลิตเสื้อผ้าตามสมัยนิยม และเน้นขายปริมาณมากๆ ราคาถูก ยิ่งเมื่อตลาดออนไลน์และธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้รับความนิยมมากขึ้น ยิ่งส่งผลต่อวความต้องการขายและความต้องการซื้อของผู้บริโภคที่สามารถช็อปปิ้งเสื้อผ้าได้สะดวกและง่ายกว่าเดิม ซึ่งกล่าวได้ว่า “Fast Fashion คือ การเปลี่ยนแปลงต่อความต้องการขายเสื้อผ้า…

10 อันดับร้านชานมไข่มุก ที่ไข่มุกนุ่มหนึบจนใครๆก็ติดใจ

เพราะชีวิตขาดหวานไม่ได้ เช่นเดียวกับ “ชานมไข่มุก” ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชาวไทยทุกคนทุกหลงใหลในรสชาติของชานมไข่มุกเป็นแน่ เพราะนอกจากรสชาติจะหวานละมุน ก็ยังมีไข่มุกที่มีเทคเจอร์หนึบหนับให้ได้เคี้ยวเพลินๆ เหมือนกินเล่นได้ทั้งวัน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่ “ชานมไข่มุก” ถึงเป็นที่นิยมและขายดีมากๆ ในไทย ถึงจะมีร้านให้เลือกมากมายแต่ร้านไหนจะอร่อยโดนใจบ้างนั้น บทความนี้พาท่านผู้อ่านไปหาคำตอบกันกับ “10 อันดับร้านชานมไข่มุก ที่ไข่มุกนุ่มหนึบจนใครๆก็ติดใจ” พร้อมกับบอกเล่าที่มาที่ไปของการมาถึงของชานมไข่มุกอีกด้วยครับ ต้นกำเนิดชานมไข่มุก ชาไข่มุกเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1988 หรือประมาณปี พ.ศ. 2531 โดยมีข้อมูลพบว่าในสมัยนั้นมีร้านน้ำชาที่ชื่อ “ชาชุนฉุ่ยถัง” ในเมืองไถจง ประเทศไต้หวัน น่าจะเป็นร้านแรกที่คิดค้นเมนู “ชานมไข่มุก”…

ทำชานมไข่มุกกินเองง่ายๆได้ที่บ้านด้วย ‘แป้งญวณ’

เวลาอากาศร้อนๆ เหนื่อยๆ เรามักจะต้องการเครื่องดื่มหวานๆ มาดับกระหายให้หายอยาก อย่างเช่น “ชานมไข่มุก” นี่แหละครับ ที่มีทั้งความหวานอร่อยมาพร้อมกับไข่มุกเคี้ยวมันกันได้ทั้งวัน แต่ทุกครั้งที่เราต้องการจะกินก็ต้องออกไปซื้อบางร้านก็อร่อยพอดีๆ บางร้านก็หวานเกินไป งั้นเรามาหาทางออกที่ดีที่สุดอย่างการ “ทำชานมไข่มุกกินเองง่ายๆ ที่บ้าน” กันดีมั้ยครับ? ไม่ต้องออกนอกบ้านในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้แถมยังได้กินของอร่อยที่เราสามารถปรุงรสได้ตามที่เราต้องการได้อย่างอิสระได้เลย วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปรู้จักกับวิธีการทำชทนมไข่มุกกินเองที่บ้านด้วย “แป้งญวณ” กันคร้าบบ!!! แป้งญวน คืออะไร? “แป้งข้าวเจ้า” หรือ “แป้งญวน” เป็นแป้งที่ทำมาจากข้าว เป็นแป้งที่ใช้มากที่สุดในการทำขนมไทย ในสมัยก่อนใช้แป้งสดที่โม่จากข้าวสารแช่น้ำค้างคืน นำแป้งที่ได้จากการโม่มาทับน้ำออก ก็จะได้แป้งที่พร้อมนำไปทำขนม…